You are currently viewing พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU)  ระหว่างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน

           มสธ. จับมือ สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เปิดมิติใหม่การศึกษา สร้างหลักสูตร 2 ปริญญา
“เกษตรศาสตร์ฯ-ศิลปศาสตร์” ตอบโจทย์ผู้เรียนยุคใหม่

               วันที่ 10 มิถุนายน 2568 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) และสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญทางวิชาการ ด้วยการลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถศึกษาและรับคุณวุฒิปริญญาจากทั้งสองสถาบันได้ในเวลาเดียวกัน พร้อมมุ่งพัฒนาบุคลากรและองค์ความรู้ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
               พิธีลงนามจัดโดยสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ มสธ. มีขึ้นที่ห้องประชุม 1514 ของมหาวิทยาลัย โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ กรรมการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รักษาการแทนอธิการบดี และ ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวล ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เป็นผู้ลงนาม มีคณะผู้บริหารของทั้งสองฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน             
               ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนมพัทธ์ สมิตานนท์ รักษาการแทนอธิการบดี มสธ. กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดมิติใหม่ของการจัดการศึกษาที่ไร้ขีดจำกัด โดย มสธ. ซึ่งมีความเข้มแข็งในระบบการศึกษาทางไกลและสาขาวิชาที่เป็นที่ต้องการของประเทศอย่างเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ จะได้ร่วมมือกับสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชนซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการเข้าถึงชุมชนและจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่น เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีทักษะหลากหลาย ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน”
               ภายใต้ความร่วมมือนี้ นักศึกษาจะสามารถเข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรีควบสองสถาบัน โดยเน้นที่ สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ ของ มสธ. และ คณะศิลปศาสตร์ ของสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน เป็นหลักสูตรนำร่อง และมีแผนจะขยายไปยังสาขาวิชาอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ยังครอบคลุมถึงการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ระยะสั้น โครงการสัมฤทธิบัตร และการพัฒนาบุคลากรผ่านการวิจัยและการบริการทางวิชาการร่วมกัน
               ดร.ศักดิ์พงศ์ หอมหวล ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดี สถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน ร่วมเปิดเผยว่า “นี่คือโอกาสครั้งสำคัญของนักศึกษาและชุมชน ที่จะสามารถเข้าถึงองค์ความรู้จากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศอย่าง มสธ. การบูรณาการความรู้จากคณะศิลปศาสตร์ของเราเข้ากับความเชี่ยวชาญด้านการเกษตรของ มสธ. จะช่วยสร้างบัณฑิตที่มีทั้งความรู้ทางวิชาชีพและทักษะทางสังคม สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนเองได้อย่างแท้จริง”
               ทั้งสองสถาบันจะร่วมกันวางแผนแนวปฏิบัติในการจัดการศึกษาอย่างละเอียด ตั้งแต่การรับนักศึกษา การเทียบโอนหน่วยกิต การฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ไปจนถึงการวัดผลและประเมินผล เพื่อให้การจัดการศึกษาร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด ความร่วมมือนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปการอุดมศึกษาไทยที่มุ่งเน้นประโยชน์สูงสุดของผู้เรียนเป็นหัวใจสำคัญ

*ขอบคุณภาพข่าว และเนื้อหาข่าวจาก STOU Variety