ระหว่างวันที่ 25–28 กรกฎาคม 2568 สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยคณาจารย์แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร ได้จัดกิจกรรมอบรมเข้มข้น “ประสบการณ์มหาบัณฑิตส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร รุ่นที่ 26” ณ ห้องประชุม 5209 อาคารสัมมนา 1 โดยมุ่งเน้นการสร้างองค์ความรู้และทักษะที่ทันสมัยให้แก่นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ภายใต้ประเด็น “การส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรภายใต้สภาวะโลกรวน” ซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนของภาคเกษตรในศตวรรษที่ 21
กิจกรรมครั้งนี้ออกแบบอย่างรอบด้าน ผสานความรู้ทางวิชาการเข้ากับการปฏิบัติจริง เพื่อสร้างนักส่งเสริมการเกษตรยุคใหม่ที่มีศักยภาพพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ภายในงานได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญหลายท่านที่มาแบ่งปันองค์ความรู้ อาทิ
อาจารย์นารีรัตน์ ธนะเกษม ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาศักยภาพและเผยแพร่องค์ความรู้ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) บรรยายเรื่อง “การปรับตัวของภาคการเกษตรภายใต้สภาวะโลกรวน” โดยเน้นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับระบบการผลิต และแนวทางนโยบายเพื่อการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อดิศักดิ์ บ้วนกียาพันธุ์ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการส่งเสริมการเกษตร มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในหัวข้อ “บทบาทของนักส่งเสริมการเกษตรภายใต้สภาวะโลกรวน” โดยชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร การวิเคราะห์ระบบเกษตร และการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในระดับชุมชนและนโยบาย
รองศาสตราจารย์ ดร.จิตตินันท์ เตชะคุปต์ และ อาจารย์ ดร.นิทัศน์ ภัทรโยธิน ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาร่วมแลกเปลี่ยนและเสริมพลังใจแก่นักศึกษาในหัวข้อ “นักส่งเสริมกับการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและการทำงานร่วมกับผู้อื่น” ที่ช่วยฉายภาพการทำงานภายต้สภาวะความไม่แน่นอนของโลกยุคปัจจุบันที่จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพและสุขภาวะการทำงานโดยรวมของนักส่งเสริมการเกษตร และวิธีการประคับประคองตนในสภาวะดังกล่าว
นอกจากการบรรยายแล้ว ผู้เข้าร่วมยังได้ ลงพื้นที่ศึกษากรณีจริง 9 พื้นที่การเกษตรในจังหวัดนนทบุรี เพื่อสำรวจและเรียนรู้จากแนวทางการปรับตัวของเกษตรกรในสภาวะโลกรวน เช่น การใช้น้ำอย่างประหยัด การฟื้นฟูดิน การปลูกพืชทนแล้ง และการบริหารจัดการความเสี่ยงในระดับครัวเรือนและชุมชน
กิจกรรมตลอด 4 วันของการอบรมนี้ ไม่เพียงเปิดโลกทัศน์ทางวิชาการ หากยังเสริมสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าร่วมให้ตระหนักถึงบทบาทของตนเองในฐานะ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” ที่จะพัฒนาภาคเกษตรของไทยให้ยั่งยืน ภายใต้ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ
